หนิง ปณิตา ร่ำไห้เปิดโปง จิน เป็นข้างขอหย่า

[Jenny937]

"หนิง ปณิตา" ลั่นยังไม่หย่า แต่เซ็นข้อตกลงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากจบแบบเกลียด แฉจินท้าทายหย่ามาตลอด มีเพศหญิงทีก็ขอหย่าคราว ตอนนี้สุดแรงเอื้อมแล้ว ขอจบปัญหาเอง พร้อมเผยขอปฏิบัติหน้าที่เมียหลวงที่ถูกตามกฎหมาย ฟ้องบุคคลที่สามเป็นระเบียบแล้ว พร้อมฝากถึงสามี ขอให้ทำอะไรให้ลูกภูมิใจว่าพ่อรักลูก !

ภายหลังที่มีข่าวคั่งค้างว่าจะหย่าหรือไม่หย่า ล่าสุด "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" ก็ได้ออกมาสะสางหมดเปลือก ถึงเรื่องราวชีวิตการครองเรือนกับ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์วันนี้ (24 เม.ย.) เปิดเผยสามี มีเพศหญิงทีก็ขอหย่าครั้ง ที่ผ่านมาท้าทายหย่าตลอด จนกระทั่งรู้สึกอ่อนแรง และก็อยากจบ เพราะเหตุว่าไม่ได้อยากต้องการไม่ชอบ ในเวลาที่ในขณะนี้แยกกันอยู่ ยังไม่เซ็นหย่า แต่พร้อมหย่า แล้วก็ได้ทำข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
"การมาสัมภาษณ์วันนี้ได้คุยแล้วก็หารือณิรินแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าหัวใจ มีการเสวนาเป็นขั้นตอนเรียบร้อย ตกผลึกกันแล้วว่าการสอนลูกจากความจริงที่เกิดขึ้นและแก้ปัญหาจากข้อเท็จจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปัจจุบันที่โพสต์ ถามคำถามว่าตัดสินใจอย่างไร สารภาพว่าภาวะจิตใจเรา มองเห็นเราเป็นแบบนี้ เราเพียรพยายามสตรองมากยิ่งกว่า แต่ว่าจริงๆไม่ใช่คนสตรองเลย ตกลงใจนานนะกว่าจะโพสต์อย่างงั้น ถ้าแต่ก่อนคิดปุ๊บทำปั๊บโดยทันที ในขณะนี้คิดปุบปับเขียนเสร็จ นั่งถอยมาสองชม. หรือทำอะไรช้ามาก ดึงจนถึงบางบุคคลไม่รู้เรื่องว่าดึงอะไร แต่เมื่อตัดสินใจทำแล้ว ขอให้กำเนิดข้อบกพร่องให้น้อยที่สุด"

เหตุผลที่มีความรู้สึกว่าพร้อมพูดน่าฟังสุดแรงเอื้อม ขอหมดปัญหาเอง
"เริ่มกระทบ และก็ลุกลามไปคนรอบๆข้าง พวกเราคิดว่าหัวข้อนี้เราคงจะเคลียร์หลังบ้านได้ แต่ได้รับการจัดการข้างหลังบ้านมาประมาณนึงแต่มันไม่เป็นผลสำเร็จ มันไม่ควรมีข่าวเกิดขึ้นอีก แต่ข่าวสารเกิดขึ้นเรื่อยการตัดสินใจเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ตัวหนิงข้อผิดพลาดในชีวิตเป็นตัดสินใจเร็ว แรง ใจร้อน แต่เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งปวง การใช้ชีวิตหลายๆเรื่อง สาเหตุ หนิงไม่ผิด แต่จบด้วยหนิงเป็นคนผิดทุกหน เพราะหนิงขาดสติและใช้อารมณ์ มันเป็นเงื่อนในใจหนิงตลอดๆพยายามปรับแต่งนี้ เพราะว่ากำลังสอนลูกให้ดำเนินชีวิตอย่างมีสติกับสังคมที่เกิดอะไรก็ไม่รู้เรื่องหนิงแข็งแรงต่อหน้าต่อตาทุกคน แต่เวลาถอยไปอยู่คนเดียว คนใกล้ตัวจะมีความคิดเห็นว่าหนิงคืออะไร เมื่อสุดแรงเอื้อม หนิงขอหมดปัญหาเองดีกว่า

ตลอด 10 ปี ปรับมากมาย ทุกวิถีทาง จากเป็นหญิงดำเนินการแล้วกลับไปอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุว่ากลัวแก่ กลัวไม่สวย งานเลี้ยงบ้าง ไปเที่ยว แต่ระยะยาวมันนานเข้าก็มีความรู้สึกว่ายามเช้าหญิงจะต้องทำงาน แล้วหนิงปฏิบัติงานมิได้ มันก็ไม่ใช่ตัวหนิง พวกเราก็ต้องกลับมาในจุดที่เป็นตัวหนิง มันอิดโรยจ้ะ ปรับแล้วแต่ยังไม่ดี ไม่ทราบว่าจุดเริ่มแรกมีต้นเหตุที่เกิดจากที่ไหน ปัญหานี้มีมาเรื่อยๆตั้งแต่มีข่าวใหญ่โตในสมัยก่อน ต่อจากนั้นก็มีมาอีกเรื่อยคนเราพอเพียงปรับไปเรื่อยๆดำเนินชีวิตหลายๆอย่าง บางทีพวกเราก็เห็นด้วยว่าเราก็ผิด เราไปจิก ไปตาม หลายๆอย่าง จนกระทั่งในที่สุดเราก็ยอมรับ ถ้าเกิดจะมีลูกเลยก็ทำใจได้

ถ้าเกิดเขามีเพศหญิงอื่นเวลาที่พวกเราอยู่ในสถานะเมียก็ยอมรับได้ แต่จำต้องไม่ล้ำเส้นกัน ต้องไม่ให้พวกเราออกมาบอก ออกมาสะสาง ไม่กระทบกับความรู้สึกลูกเรา คิดว่าชีวิตก็น่าจะอยู่ตัวแล้ว ไม่คิดไม่ฝัน ปัจจุบันนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันจริงใช่ไหม แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจริง จะหลอกตัวเองว่าไม่จริง แล้วปลดปล่อยให้เรื่องเงียบๆซาๆแล้วออกมาพูดเบาๆแล้วปลดปล่อยให้เฉยๆเสมือนก่อนหน้าที่ผ่านมา มันทำมาตลอด แต่ ณ วันนี้มันแรงขึ้น เลยตกลงใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาจิตใจต่อจากนี้ ให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างมีพลัง"

ลั่นไม่อยากไม่ชอบจิน ต้องการให้มีโอกาสจับมือกันเพื่อลูก คิดตั้งแต่สิ้นปี ปล่อยให้มีอิสระ จะทำอะไรก็ทำ
"ตกลงใจบอกวันนี้ เชื่อว่าจบแบบงี้ หนิงก็มีส่วนไม่ถูก แต่หนิงทำในส่วนที่หนิงผิดเยี่ยมที่สุดแล้ว หนิงไม่ได้อยากเกลียดชังจิน ต้องการให้วันนี้ได้โอกาสประสานมือกับจินเพื่อลูก แต่ถ้าดึงไปๆมาๆกกว่านี้ หนิงไม่อยากนั่งแอ๊บ มนุษย์เราช้ำเป็นจำนวนมากเปลี่ยนแปลงจากความช้ำเป็นเกลียดชัง รักเยอะ รักมากมายก็ชังมากมายหนิงไม่อยากชิงชัง อยากประสานมือกับเขาต่อ แต่ในสถานะบิดาของลูกหนิงไม่ใช่สถานะเขาเป็นผัวหนิง หนิงใคร่ครวญมากระทั่งสุดแล้ว รวมทั้งน่าจะเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด และก็เป็นแนวทางที่จินเองจะได้มีอิสระ ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้แฮปปี้ ไม่ทำให้คนไหนเสีย

คิดก็ดีแล้ว หนิงคิดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เราสองคนทะเลาะกัน เขามั่นใจว่าเรารักเขา ถึงแม้ว่าจะเขาทำอย่างไรเราก็ยกโทษ หนิงก็มั่นใจว่ารักเขามาก ก็มีการท้าหย่ากันเบาๆตลอดเวลา แต่ว่าระยะหลังกล่าวหลายครั้ง มิได้กล่าวกับหนิง แม้กระนั้นไปบอกกับสหาย คนที่อยู่รอบข้างหนิง เพียงพอคนรอบข้างหนิงมาถามคำถามว่าจะหย่ากันหรอ หนิงก็ขำ บ้าบอ ใครจะไปหย่ากับมัน"

ฝ่ายชายเป็นคนพูดขอหย่า มีเพศหญิงหนก็ขอหย่าครั้ง แถมกล่าวว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็เลิก
"จนถึงตอนที่หนิงไปอยู่ท่องเที่ยวที่เกาหลี เป็นข่าวช่วงวาเลนไทน์ ข้างหลังกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว พี่ๆที่เคารพนับถือของหนิงรวมทั้งจินเอง หลายๆท่านก็ทนไม่ไหว ก็เรียกให้มาจัดการ มาคุย แม้กระนั้นการสนทนาวันนั้น ก็ยังกล่าวว่าต้องการจะหย่า จินเป็นคนพูด

มีผู้หญิงทีก็ขอหย่าหน หนิงอ่อนเพลีย มันกระทบกับครอบครัว ทุกความเกี่ยวเนื่องไม่มีผู้ใดไม่มีปัญหา แต่ทุกความข้องเกี่ยวจะดียิ่งขึ้นจำต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งสองฝ่ายที่จะปรับแก้พวกเราเคยคุยกันแต่ก็จบแบบเดิมๆพี่เป๊กเรียกไปนั่งคุย ก็จบว่าเราจะก่อให้ดีเยี่ยมที่สุด แต่ภายหลังกลับจากเกาหลี ก็ยังการันตีในแบบงี้ ด้วยคำพูดที่ว่าแม้กระทั่งไม่มีสตรีคนนี้ก็เลิก จินเป็นคนพูด ได้ แล้วเราจะรับผิดชอบลูกร่วมกันยังไง เขาก็ให้ข้อแนะนำมา 1 234 ทำข้อตกลง 1 ฉบับเพื่อยื่นให้ทนายความ ทำถูกกฎหมาย

คนอาจรู้สึกว่าข้อตกลงหนิงต้องได้อะไรเยอะมากมากมาย ขอใช้พื้นที่ที่ตรงนี้สะสางเอง คนเข้าใจว่าดาราแต่งงานกับคนร่ำรวยเนื่องจากพวกเราอยากมีความสุข ต้องการใช้เงินเขา เราก็เลือกเอง อยู่งามๆใช้เงินไป โคตรเจ็บ สตรีคนนี้ปฏิบัติงานอายุ 15 ส่งน้องเรียน 3 คน สำเร็จการศึกษาที่ดีมากทุกคน ดูแลแม่ สมรส ไม่เคยไปเดือดร้อนหรือพึ่งพาอาศัยอะไรจินเลย หนิงดูแลตนเองทั้งสิ้น"

เอกสารไม่จบเนื่องจากฝ่ายสามีไม่ทำอะไรเลย
"แต่เอกสารนี้ที่ไม่จบ คือจิน ไม่มาทำอะไร ในสิ่งที่จิน ตกลงว่าจะทำ สิ่งที่ห่วงที่สุดเลย ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดกับชีวิตหนิง คนเป็นแม่จะทราบว่าความยั่งยืนของลูกเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต หนิงห่วงอยางเดียวเป็นณิรินแค่นั้น สิ่งที่หนิงขอให้ทำกับณิริน เป็นเรื่องเล็กมาก ถ้าเกิดหนิงจะทำสิ่งเหล่านั้นเองในวันนี้ หนิงก็ทำเป็น แต่ว่าหนิงมีความรู้สึกว่าอย่างต่ำให้ลูกภูมิใจว่าบิดาได้ปฏิบัติหน้าที่การเป็นบิดาให้กับลูก หนิงก็มั่นใจว่าเขารักลูก แต่ว่าหนิงไม่ได้อยากต้องการอะไรที่เป็นปากเปล่า ปากเปล่าใครจะกล่าวอะไรก็ได้ เพียงพอเราแยกสถานภาพความเป็นสามีภรรยาพวกเราเป็นบุคคลภายนอก พวกเราไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งเขา พวกเราควรจะทำเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเอกสาร หากวันนึงแยกกัน เป็นเพื่อนกัน พวกเราต้องไม่ทะเลาะกันด้วย จำต้องคิดอะไรละเอียดรวมทั้งไกลๆถ้าจำเป็นต้องทะเลาะกันในฐานะความเป็นเพื่อน ก็ไม่ต้องเลิกกันดีกว่าไหม"
เซ็นข้อตกลงเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังไม่เซ็นหย่า
"เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เป็นแค่ข้อตกลง ยังมิได้มีการเขียน เซ็นใบหย่าใดๆจากวันนั้น จนกระทั่งวันนี้ หนิงก็คอยการที่จะมาเคลียร์ว่าจะทำอย่างไร และหนิงมิได้รับการสะสางที่ตรงนั้นเลย ซึ่งหนิงไม่ทราบจำต้องประพฤติยังไง พอเพียงมีข่าวสารก็ไม่เคยรู้จะตอบอย่างไร เพราะกำลังไขปัญหาข้างหลังบ้านให้เหมาะสมที่สุด หวังว่าสักครู่ก็กลับมาน่ะ แต่ข่าวล่าสุด ข้างหลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นมาก กระทั่งหนิงมีความคิดว่าถ้าหากหนิงไม่นำก็ไม่จบ"

ทราบเนื่องจากณิรินมาเล่าให้ฟัง
"คนรู้เรื่องนี้คือลูก รวมทั้งเป็นคนมาเล่าให้ฟัง ตอนต้นรู้สึกว่าเกิดเรื่องขำ ตลก รู้สึกว่าณิรินพูดเล่น ห่วงพ่อ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง พวกเราก็ไม่ต้องกลับไปบอกอะไรกับเด็ก เราจำต้องไม่ไปซ้ำเรื่องเดิมกับเด็ก หน้าที่แม่เป็นประคองความจริงที่เขาทราบ ให้เขาเข้าใจความจริงที่เด็กควรจะเข้าใจ เรามีอะไรก็จะเพียงพอเดาทางลูกถูกว่าเขาเข้าใจแบบติดลบหรือเชิงบวก หรือกลางๆ

หนิงผ่านการคุยกับลูกเป็นระเบียบแล้ว ณิรินไม่รู้เรื่องการแยกทาง เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้พบคุณอากับปู่ รวมทั้งรองลงมาคือคุณพ่อเขา พวกเราก็พูดว่าไม่มีปัญหาเลย แม่ก็ยังเป็นลูกสาวและก็เป็นพี่สาวอา แล้วก็เป็นเพื่อนบิดา หนิงคิดทบทวนแล้วทวนอีก จนกระทั่งมั่นใจ นี่เป็นผ่านกรรมวิธีความคิดของหนิง มานานมากแล้ว"
อยากหย่า ถึงเจ็บแต่ว่าไม่ต้องการที่จะอยากไม่ชอบ ฟ้องมือที่สามแล้ว
"ถามว่าต้องการหย่าไหม อยากนะ เจ็บไหม เจ็บ แต่หนิงไม่ต้องการที่จะอยากเกลียดชัง อยากที่จะให้จินเป็นบิดาที่สวยของลูก หนิงมีความรู้สึกว่าเป็นทางออกที่เยี่ยมที่สุด หนิงกับลูกนอนคุยกับทุกเรื่อง เขาทราบทุกเรื่อง เขาก็โอเค

จุดเริ่มหนิงไม่ได้ไม่ถูก แต่ตอนสุดท้ายหนิงไม่ถูกตลอดเวลาเนื่องจากความไร้สติ ต่อสู้อาละวาด ด่า เธอให้ข่าวอย่างนี้ ฉันให้ข่าวหนักกว่าเธอ แต่วันนี้พยายามปิดทุกอย่างให้เงียบที่สุด หนิงใช้วิธีตามกฎหมาย แม้ว่ามิได้เซ็นหย่า ใช้วิธีตามกฎหมาย ตามเมีย เมียหลวงที่ควรจะมี เขามีกฎหมายให้จัดการ หนิงได้ฟ้องมือที่สาม ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นระเบียบแล้ว

ปวดใจณิรินพบคำถามที่สถานศึกษาครั้งใดก็ตามเป็นข่าว
"ณิรินพบปริศนาที่สถานที่เรียนครั้งใดก็ตามเป็นข่าว มันปวดมากมายนะ ณิรินไม่มาเล่า หนิงไปทราบจากแม่เพื่อนเกลอณิรินแล้วหนิงก็ถามลูกว่าเพราะอะไรไม่มาเล่าให้แม่ฟัง คำตอบของณิรินคือเขาเห็นแม่เครียด มีปัญหาเยอะมาก หนูไหวแม่ หนูโอเค หนูสบาย (เสียงสั่นเครือ) เขาบอกทุกคนจะถามเขา เขารู้กันทั้งยังสถานที่เรียนแหละแม่ ณิรินก็ตอบว่าใช่ ก็พ่อฉันล่ะมีข่าว แม้กระนั้นเขายังรักกันนะ เขาเป็นเพื่อนกัน

วันนี้หนิงบอกก็ส่งผลเสีย หนิงไม่กล่าวก็ก่อให้เกิดผลเสีย แม้กระนั้นหากไม่ตกลงใจเป็นผู้นำขจัดปัญหาคราวนี้ ผลกระทบระยะยาวจะหนักกว่า แล้วก็หนิงมั่นใจว่าทุกคนเข้าใจหนิง ก่อนหน้ามารายการนี้ หนิงก็หารือเยอะที่สุด คนสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็คือลูกแล้ว

ในตอนนี้รอจัดการให้แจ่มกระจ่าง ว่ายังไง อย่างที่บอก เงียบก็เสี่ยงให้คนรู้ผิด กล่าวก็มีความเสี่ยงต่อการที่คนไม่เข้าใจพวกเราจะไม่เข้าใจ แต่อย่างที่บอก จุดบกพร่องในชีวิตหนิงมากที่สุดเป็นทำอะไรก็ขาดสติ เวลาเรื่องเพื่อน พร้อมเป็นด่านหน้า แต่พอเพียงเรื่องตนเองล้มหมดรูป ล้มแล้วก็ลุกขึ้นยืนมาทบทวน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า หนิงตกลงใจกล่าวอย่างมีสติสัมปชัญญะที่สุดแล้ว

(มั่งคั่งญ่า มั่งมีญาเรศ เองตระกูล พิธีกรรายการ พูดว่านี่คือความแข็งแกร่งที่สุดสำหรับความเป็นแม่ ทำหนิงก้มหัวร้องไห้) สิ่งที่ต้องการที่จะให้คนรู้เรื่อง มานะมากมายเลยจ๊า ต้องการที่จะให้คนเห็นความอุตสาหะของหนิง ในตอนที่มันห่วยแตก (ร่ำรวยญ่า-เบนซ์ พรชิตาเข้าไปกอด) ไม่อยากให้คนเห็นน้ำตาว่าเรามานั่งร้องไห้ อยู่บ้านเราก็ยิ้ม แม้กระนั้นราวกับเล่นละคร ร้องไห้อยู่ภายใน ฝืนยิ้มเพื่อทำให้ลูกพวกเราไม่รู้สึกอะไร

ยกโทษแล้ว แต่ว่าอย่างต่ำขอให้ทำให้ลูกภูมิใจว่าพ่อรักเขา
"ถามว่าต้องการบอกอะไร จริงๆคุยทุกเรื่องแล้ว เกิดเหตุก็อุตสาหะคุย แต่เขาไม่คุย หนิงก็ใช้แนวทางส่งข้อความ คุยทุกเรื่องในหลายๆเวอร์ชั่นแล้ว ถามคำถามว่ายังรักไหม รักในในอนาคตที่จะเป็นเพื่อลูกได้ อยากพูดว่าให้ทำเพื่อลูก ไม่ต้องทำเพื่อหนิง ส่วนของหนิงมันจบแล้ว ที่เหลือทำเพื่อลูก

คุณยายบอกหนิงเสมอว่าคนเราจะขจัดปัญหาอะไรได้ จำต้องสารภาพความจริงและก็ยอมจบ ถึงจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ได้ จำเป็นต้องยอมจบก่อน หากไม่ยินยอมจบจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ หนิงต้องการที่จะให้หนิงกับจินอยู่ในสถานะพ่อรวมทั้งแม่ที่ดีของลูก อยากให้ทำทุกอย่างเพื่อความยั่งยืนและมั่นคงของลูกที่กระจ่างแจ้ง ไม่ใช่เพื่อหนิง หนิงไม่รู้เรื่องหรอกว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใด อะไรก็ได้ ที่ดีที่สุดสำหรับลูก ให้จัดการให้ลูกซะ จะมากจะน้อยขอให้ทำให้ลูกมีความภูมิใจว่าพ่อรักเขาช่วงนี้ขอแยกกันอยู่สักพัก แต่ว่าหนิงมีแต่ความปรารถนาดี หนิงก็ต้องการให้เขาได้พบคนที่แมตซ์กับเขา รู้เรื่องเขา รวมทั้งอยู่กับเขาจริงๆถ้าเขามีความสุข ลูกพวกเราก็สุขสบายด้วย

หนิงให้อภัยเขาไปนานแล้ว หนิงช่วยทำทุกๆอย่างแล้ว เพียงแค่มีคนเห็นว่าหนิงเปลี่ยนในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เพียงนี้ก็เกิดกำลังใจแล้ว (ร้องไห้) หนิงเป็นคนห่ามๆแจ่มกระจ่าง แต่ว่าคนก็ถูกมองติดลบ หนิงอัดมาอีกทั้งรายการไม่มีน้ำตา (ร้องไห้) แค่เห็นในมุมบางๆว่าหนิงกลับใจได้ ต้องการเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกเท่านั้นเอง ข้างหลังเทปนี้ออกอากาศไป ก็ไม่ต้องมาถามอะไรหนิงแล้ว ยุคนี้สมัยไหนแล้ว อย่าทนเพื่อเกลียดชัง"
หนิง ปณิตา
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13824/