• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Beer625, April 04, 2023, 05:34:15 PM

Previous topic - Next topic

Beer625

1. เนื่องจากว่าเรามิได้เกิดมาเพื่อปฏิบัติงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ดำเนินการแล้วแฮปปี้ทุกวัน หลายทีที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าเกิดพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ตัวอย่างเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และยังรวมไปถึงต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราถูกใจจะก่อให้จิตใจเบิกบานขึ้น รวมทั้ง เพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจ เพราะการเฟลจากที่ดำเนินการโดยมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ รวมทั้งขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตนเอง ส่วนตัวสำหรับเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็ อีกเยอะแยะ


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามาก เป็นจริงเป็นจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ เดี๋ยวนี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนตอนนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. รู้ยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างพวกเรา สิ่งที่เรากลัวเกรงที่สุดในที่ทำงานก็คงหนีไม่พ้นนายจ้าง ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยนานับประการ อย่ างตัวเราเคยพบทั้งที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานหนัก ไปจนถึงวันๆไม่ทำงานทำการ คอยสั่งคนโน่นหนคนนี้ครั้ง แต่พอใช้ดูดีๆเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่ว่าคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากมิได้ไง เพราะอะไรน่ะเหรอ นอกเหนือจากที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเกลียดแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความเคารพด้วย หนำซ้ำบางทีอาจจะพาลกันเสียระบอบการปกครองทั้งทีม


ถ้าหากให้เสนอแนะก็อย ากจะบอกว่าพย าย ามเข้าใจเค้าดีมากยิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนพาลบ้ า ง นิสัยก็แตกต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าเห็นว่าพวกเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้ดูในมุมที่ว่าถ้าหากพวกเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่แหน่งใดไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

มิได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินการ ก็อย ากไปเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่าเพียงแค่ออกหน้าขี้บ่นแบบเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกถึง

แค่เราพรีเซ็นท์งานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำเป็นต้องเอางานเราไปพรีเซ็นท์กับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องผู้ใดที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้มาก เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นปกติ

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเหลือเกินในโลกอินเตอร์เน็ต

คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกจากจะมอง resume เราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย เพื่อนพ้องเราที่เป็น HR การันตีมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของพวกเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำเต็มตัว เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่ างพวกเราเป็นไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหัวหน้ามาเห็นก็ช่างเถอะ


ถ้าหากอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธาราณพด้วย เนื่องจาก ส่วนมากคนในสถานที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้างั่ง ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่นอน...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของเรา สนใจ ใส่ใจ แต่ว่า... อย่ าเก็บทางวิ่งบุคคลอื่นมาอิจฉาริษยา

ตอนปีที่ผ่านมานี้ สหายเราผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเริ่มศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางคนแปลงงานไปงานที่เงินเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตนเอง บางคราวเราเลื่อนมองหน้าเฟสและแอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้เจริญ แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่บอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากยิ่งกว่าเราหรอกดีไม่ดีเพื่อนพ้องหลายท่านอาจจะกำลังริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็มิได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่พวกเราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ควรจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น

จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา รู้ดีว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร รู้ว่าปลายทางเราต้องการอะไร ทราบว่าวันนี้เราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบดูทางวิ่งผู้อื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เราเอาจริงเอาจังกับชีวิตเพิ่มมากขึ้น แม้กระนั้นอย่ าเก็บมาใส่ใจจนถึงกลัดกลุ้มเพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

เดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งตกอกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้หมายความว่า ให้พวกเราไม่ต้องจิรงใจกับใครกันแน่ แต่ว่า... หมายความว่า " พวกเราไม่ใฝ่ใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพวกเล่นพ้อง หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) โดยมากไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้มากนี่ห้ามพลาดท่าเลยจ๊า มีคนคอยซ้ำมากเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่เรามองว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้พูดว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือ ฝืนตัวเอง แต่ว่า... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่ไม่เหมือนกัน การที่เราดูแล้วรู้ดีว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะก่อให้พวกเราได้เปรียบมากมายๆเว้นแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่จำเป็นต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้เรื่องหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปดำเนินการกับคนใด ด้วยเหตุนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แม้กระนั้นในอนาคต บางทีอาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุยังน้อย ความคาดหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย แม้พวกเราจะรู้สึกกดดันสำหรับการทำงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านช่วงแบบเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะชี้แนะเป็น.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม พวกเรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดไป อย ากทำอะไรทำ อย าเรื่องมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันไม่ดีก็พรีเซ้นไปเรื่อยฝึกหัดไปเรื่อยโดนดุด่าเดี๋ยวนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50 มาก แม้ว่าจะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก รวมทั้ง อ่อนประสบการณ์ คนส่วนมากพร้อมจะยกโทษพวกเราเสมอ ด้วยเหตุนั้น ล้มเหลวเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามแตกต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนร่วมงาน " เป็นยังไง ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนพ้องย ากก็คงจริง สมัยประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม แล้วก็การหาเพื่อนพ้องในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าไร พวกเราจะหาเพื่อนย ากขึ้นแค่นั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องแท้จริงจิตใจคนนึงในสถานที่ทำงานมันย ากมากแค่ไหน


นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์ค่าจ้างรายเดือนอย่ างพวกเราคือไปดำเนินงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาเพื่อน เพราะฉะนั้นวันๆเราจึงจะเจอเพียงแค่เพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากแล้วก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

เราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องเฉพาะบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างนี้ พวกเรามีความรู้สึกว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนกลุ่มนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหนึ่งก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเห็น

คุยแลกเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้เราทดลองถามตัวเองว่า "ถ้าหากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนฝูงจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " สหายร่วมงาน " ให้พบ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ไม่เหมือนกันระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนร่วมงาน " คืออะไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และการหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าใด เราจะหาเพื่อนย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนแท้จริงหัวใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์ค่าตอบแทนรายเดือนอย่ างพวกเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานชมรมหาสหาย โดยเหตุนี้วันๆเราก็เลยจะพบแค่เพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม ซึ่งโดยมากและก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานเท่านั้น

พวกเราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องเฉพาะบุคคลแล้วก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็สหายร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบนี้ พวกเรารู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนกลุ่มนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหนึ่งก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเจอ เสวนาแลกความเซ็งก็ดี ให้เราลองถามตัวเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดคนนี้รับประทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบสหายจริงๆในที่ทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าอย ากประสบผลสำเร็จ และ แฮปปี้ ควรเป็น " ลูกจ้างมือโปร " ให้ได้ พูดง่ายแต่ทำย ากนะ เนื่องจากผู้รับจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ตระหนักได้ว่า " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง " ซึ่งก็หมายความว่าบริษัทเค้าอยากได้อะไรบางอย่ างจากเราแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนนั้นๆ

พวกเราจำเป็นต้องรู้ดีว่าบริษัทว่าจ้างพวกเรามาทำอะไร และก็ ทำมันให้ดีกว่าที่บริษัทมุ่งมาดหากต้องการความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ ถ้าหากงานที่ทำอยู่คิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป


ควรจะหางานที่พวกเราทำแล้วพวกเราแฮปปี้และทำเป็นดีเพื่อดึงสมรรถนะของตนเองออกมาให้เยอะที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้พวกเราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังมีผลให้เราพัฒนาตนเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากสุดท้ายพวกเราเจอสายอาชีพที่พวกเรารักแล้วก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

แล้วก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงงานจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าตอบแทนจนถึงเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีผลสรุปที่ดีตามออกมาด้วย ดังเช่นว่าได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ปัจจุบันนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุเพิ่มขึ้นทุกวี่วัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสบายของพ่อแม่
ลูกจ้าง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/