โคตรรักเอ็งเลย

[Narada]

โคตรรักเอ็งเลย เป็นเรื่องราวเลิฟสตอรี่จี๊ดโดนใจเมื่อ รงค์ นักเขียนบทตลก กำลังตกที่นั่งลำบากกับอาถรรพณ์ชีวิตคู่ ที่ดูเหมือนจะไร้ปัญหา แต่ทว่ามันมีอยู่จริง เพราะ แดง ภรรยาสุดที่รักดันไปเกิดมีกิ๊กกั๊ก ปันใจให้กับหมอตรวจภายใน ที่แสนสุภาพสุดหล่อนามว่า รักษาอันที่จริงจะโทษแดงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่ารงค์เองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะทั้งคู่แต่งงานกันมานานเรื่องของความกุ๊กกิ๊ก โรแมนติกก็เริ่มห่างหายไปตามกาลเวลา ทำให้อะไรในชีวิตมันไม่ฟู่ฟ่ากระชุ่มกระชวยเหมือนเดิม ประกอบกับ แดงเองก็มาถูกใจ หมอตรวจมะเร็งปากมดลูก เข้าอีก ถึงใจจะหวั่นไหว เธอก็พยายามตัดใจ เลี่ยงไปตรวจมะเร็งเต้านมตามคลินิก ก็เจ้ากรรมดันเป็นคลินิกของ รักษาเข้าอีกทำเอาแดงเสียการทรงตัวและหัวใจไปกับความสุภาพของหมอหนุ่ม แล้วแดงจะทนได้อย่างไร ในขณะเดียวกันกับที่รงค์น้อยผู้น่าสงสาร ต้องหาทางออกโดยพึ่ง ดร.อ่าง ทำเอาแดงน้อยใจสามี จึงเริ่มสานต่อความสัมพันธ์กับรักษา ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง รงค์รับรู้ถึงความสัมพันธ์แบบลับๆล่อๆของเมียเข้าจากไดอารี่เล่มแดง อารมณ์ปรี๊ดส์ขึ้น ผัวเมียเคลียร์กันไม่ลง แดงขับรถออกจากบ้านตกเขาทันที เดือดร้อนถึงปอเต็กตึ๊งที่ต้องตามไปเก็บ รงค์ได้แต่เสียใจ ที่ทำให้เมียต้องจากไป โดยที่ยังไม่ทันได้พูดจากันให้เข้าใจ รงค์อยู่บ้านชักรู้สึกหวั่นๆ ข้าวของในบ้านเริ่มเปลี่ยนที่อยู่บ่อยๆ เขาบอกกับทุกคนว่าเมียของเขากลับมาที่บ้านแน่ๆ นอน เพื่อนได้แต่บอกให้ทำใจโคตรรักเอ็งเลย ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2549 ที่ในตอนนั้นถือว่าเป็นผลงานการคืนจอเงินครั้งแรกในรอบประมาณ 10 ปีของ "โน้ส อุดม" และเขายังได้รับโอกาสจากผู้กำกับให้สามารถแคสติ้งคนที่จะมารับบทนางเอกด้วยตัวเองอีกด้วย จึงทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาในสไตล์หนังรักที่มีรูปแบบเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ไม่ใช่หนังรักเซอร์วิสคนดูทั่วๆ ไป แต่ลงรายละเอียดถึงความรักที่แยบยล "วิสา สารสาส" คือนางเอกที่ถูกเลือกมารับบทในหนังเรื่องนี้ และเธอก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้เป็นธรรมชาติ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ พิง ลำพระเพลิง ยังรับหน้าที่เขียนบทหนังเองทั้งหมดด้วย โดยมีข้อมูลว่าบทพระเอกของเรื่องนั้น เขาได้เขียนขึ้นมาเพื่อที่จะให้โน้สเป็นผู้รับบทบาทนี้โดยเฉพาะเท่านั้น และก็กลายเป็นการกลับมาร่วมงานกกันอีกครั้งของพี่น้องร่วมรุ่นจากรั้วเพาะช่าง ถึงแม้ว่า โคตรรักเอ็งเลย จะไม่ใช่หนังที่ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย เพราะกวาดรายได้ตลอดโปรแกรมฉายไปที่ 50 ล้านบาทนิดๆ แต่หนังยังคงความคลาสสิกเอาไว้ในตัวเองได้เป็นอย่างดี แม้ว่าปัจจุบันเวลาจะผ่านมาแล้ว 15 ปีเต็ม แต่ก็ยังเป็นหนังรักไทยที่มีลูกเล่นเฉพาะตัวและยังไม่มีหนังเรื่องนี้ทำลายความขลังของหนังเรื่องนี้ได้เลย