5 ทางออกนิสัยโมโหง่ายให้กลายเป็นคนใจเย็นขึ้น

[Jessicas]

5 ทางแก้นิสัยคนขีโกรธให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. หยุดคำกล่าวแล้วก็การกระทำในยามที่โกรธเป็นถ้าหากรู้สึกว่า อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความนึกคิดอะไรก็ตามคำบอกเล่าใดๆพฤติกรรมใดๆแม้มีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจหนำใจเดี๋ยวเดียว แต่ว่าในที่สุดจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กพื้นฐานที่จำต้องทำให้ได้คือ...พวกเราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

รอคอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนแล้วค่อยว่ากัน

2. พิจารณาโท ษของความโก รธแล้วก็คุณประโยชน์ของความกรุณาคือให้ย้อนคิดถึงชีวิตก่อนหน้าที่ผ่านมา

ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างเนื่องจากความโก รธทำคนใดกันเศร้าใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเท่าใด

ทำลายความข้องเกี่ยวไปเช่นไรสิ่งพวกนี้ให้น้อมมาคิดเสมอๆคิดซ้ำให้มากๆ


พินิจจนใจยอมรับ หมดข้ออ้างอย ากแก้ไขตนเองด้วยความสมัครใจ


เนื่องจากว่ามั่นใจแล้วว่า ความโกรธไม่ใช่ของดีแต่ว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความสำราญรวมทั้งความก้าวหน้า

อีกทั้งของพวกเรา ผู้ที่เรารัก แล้วก็ผู้ที่รักพวกเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของคนพวกเรารังเกียจให้คนไหนกันมาสั่งเท่าที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมแพ้ด้วยตัวเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนตนเองใครจะบอกคนไหนกันแน่จะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยนแปลง

แบบนี้แล้ว พวกเราก็เลยต้องทำตัวเป็นอาจารย์ของตนเองเพื่อสอนตัวเองให้มองเห็นพิ ษภั ยของความโก รธชังอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสำราญเล็กๆน้อยๆให้ผู้อื่นกระทั่งเป็นนิสัยคือให้รู้จักชื่นชม ให้กำลังใจผู้คนเป็นประจำ

เมื่อทำให้เขาสุขสบายแล้วให้เรารู้จักเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้ดวงใจเราดื่มด่ำ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เสมอเราบางครั้งก็อาจจะลองเปรียบเทียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีมากกว่ากันหากจิตใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะค่อยๆเบื่อความโกรธเคืองชังชิ งชั งไปทีละเล็กทีละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลปรปักษ์ถ้าหากความโกรธเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตา

พวกเราอาจขับไล่ความมืดมนไม่ได้แต่ว่าถ้าเกิดพวกเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดดำจะหายไปและก็ความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้เบาบาง


4. ฝึกมองความรู้สึกด้วยใจที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการรุ่งเรืองสติ


คือพวกเราฝึกหัดมองดูอารมณ์ต่างๆของพวกเราด้วยใจที่เป็นกลางเสมือนความคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่พวกเรา

ชอบใจก็ไม่เข้าไป เสียใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชอบก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกหัดให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดพวกนี้

แม้ใจพวกเราเข้าไปยึดท้ายที่สุดก็ไม่ดีทั้งหมดด้วยเหตุว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเหมือนในกำเหรียญเอาไว้ภายในมือ

ก็จะได้ทั้งหัวอีกทั้งก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้แม้ฝึกบ่อยๆนอกเหนือจากความโกรธแล้วยังช่วยกำจัดลดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งผอง

ดังเช่นความหม่นหมองความเดียวดายความเบื่อต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นมากเพิ่มขึ้น

5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อเสียจุดแข็ งของตนเป็นให้รู้จักพิจารณาตัวเองถ้าหากพวกเราโก รธคนไหนกันแน่เสมอๆ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางครั้ง กับคนบางคนให้สังเกตดูเถอะว่า พวกเราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ จนกลายเป็นความเคยชินเพียงแต่มองเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

หัวใจก็วูบๆไหวๆความหงุดหงิดก็เริ่มเข้ามาตรงนี้ควรหลบหลีกการประจันหน้าดังนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้จริงๆ

ดังเช่นว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง มิตรสหาย แบบงี้ก็ให้ยกเอาสิ่งที่เขาทำขั ดดวงใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกฝนดวงใจของเรา ฝึกฝนอภั ยดีมากยิ่งกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป

เนื่องจากมัวแต่ทะเลาะกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เรารับรู้ไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว

หากขัดแย้งแม้กระนั้นมีความสำคัญต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักมีต้นเหตุมาจากมีบุญก ร ร ม

สโมสรด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างงี้ยิ่งจำต้องรู้จักระวัง หยุด สำรวม

อย่าไปก่อเวรก่อกรรมให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนอารมณ์เสียง่าย ไม่มีอะไรดีมีแม้กระนั้นเสียประโยชน์ เสียอีกทั้งสุขภาพเกี่ยวกับร่างกายใจ

ทำลายความสัมพันธ์ ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนแปลงเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่น

และก็ตนเองก็หาความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกหัดแรกๆจะทำเป็นย ากแม้กระนั้นขอให้ทรหดอดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญคือควรจะมีพลังใจ และวินัยฝึกหัดแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตนเองในที่สุดแล้วพวกเราควรจะมีความรู้ความเข้าใจว่า

การลดมานะอัตตาของตนลดความโมโหรังเกียจของตัวเองเรามิได้ทำเพื่อคนไหนแต่เราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตนเอง

เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ แต่ถ้าเกิดทำได้วันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นพวกเราจะยินดี และรู้สึกขอบคุณมากตัวเองรู้สึกพึงใจว่า พวกเราสามารถผ่านผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีมากยิ่งกว่าเดิมและก็สิ่งนี้เป็นการมอบความรักแล้วก็ความกรุณาให้ตัวเองอย่างแท้จริง...

โมโห
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/