7 วิธีสอนลูกให้เชื่อฟังบิดามารดาและไม่ต้านทานเมื่อลูกเริ่มโต

[Jenny937]

ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เกิดเรื่องย ากมาก ด้วยเหตุว่าลูกเริ่ม

มีความคิดเป็นของตนเอง บางเวลาก็พึงพอใจสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามากยิ่งกว่า


บางทีลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่อยากสักเท่าไรนัก


ฉะนั้นก็เลยใช้วิธีทำหูทวนลม ละเลยต่อคำบอกเล่าของพ่อแม่ รวมทั้งมันบางทีอาจนำมาสู่ การมีปัญหากันได้

1. หาว่าอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง

แม้ลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางทีอาจเกิดจากกำลังโก รธ เศร้าใจ

หรืออยากที่จะให้พ่อแม่เอาใจ สิ่งที่ควรจะทำหมายถึงสนทนาและ หาคำตอบ ว่าทำไมเพราะอะไร

ลูกไม่เชื่อฟังรวมทั้งบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีบิดามารดาอยู่ข้างๆเสมอนะ

รวมทั้งทั้งนี้ควรสังเกตทัศนคติวิธีคิดด้วย รวมทั้งการพูดของลูก ก็เพื่อเข้าใจลูกเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วยนั่นเอง

2. สอนด้วยการ ใช้เคล็ดวิธีแบบเข้าใจง่ายๆ

ด้วยเหตุว่าเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆพร้อมกันไม่เข้าใจ สิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็น

ใช้เทคนิคสอนเขา ให้จำง่ายดายมากยิ่งขึ้น ดังเช่นว่า มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ติเตียน หรือ กล่าวให้ตื่นเต้น


ดังเช่น วันนี้ทำอะไรที่สถานที่เรียนบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม เพราะว่าทำให้ลูก


ไม่อย ากทำต าม เช่น ห้ ามดื้อ ก็ควรเปลี่ยนเป็น แม่ถูกใจลูก ในเวลาที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยนะ

นอกเหนือจากนี้ พ่อแม่บางทีอาจเปลี่ยนแปลงมาใช้การให้คะแน น เพื่อลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังเยอะขึ้นก็ได้นะ

3. สอนด้วยคำพูด สายตาที่ความรัก

ขณะใดที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ไหวที่จะตะคอ กลูก จากคำบอกเล่าแร งๆของคุณ

ทั้งยังไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย รวมทั้งการเสียงดัง การตะคอ กนั้นมันอาจจะก่อให้

ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ทว่าในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี ด้วยเหตุนี้แล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ เริ่มจากดึงความพอใจ

ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำพูดง่ายๆให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุเดือด

ให้ท่านลองเปลี่ยนแปลง เป็นบอ กทางป้องกั น จัดการกับปัญหาจะดียิ่งกว่านะ นอ กจากคำพูดกับน้ำเสียงแล้ว

ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกยอมรับฟังเยอะขึ้น กล่าวกับเขาดีๆบอกด้วยสายตาที่ความรัก แล้วคุณจะเข้าใจลูกมากเพิ่มขึ้น

4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก

เนื่องจากว่าบางคราว สิ่งที่พ่อแม่คิด มันก็มิได้ถูกต้องเสมอหรอกนะ เพราะเด็ กแต่ละคน

พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ดีว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร


และก็มีอะไรอยู่ในใจ แล้วหลังจากนั้นต้องตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด เพื่อช่วยให้ลูกผ่อ นคล า ยความรู้สึกวิตกกังวลได้

5. สอนด้วย การมีกติกา ระหว่างกัน

แต่นะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ชอบ ที่เกลียดชังของตนเช่นเดียวกันนะ และก็บ่อยมาก ที่คุณให้ลูก

ทำสิ่งที่เกลียด นานจนลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง รวมทั้งสิ่งที่ควรจะทำนั้นหมายถึงเด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยแห่งการต่ อต้ าน

ด้วยเหตุนั้น ลองให้คำแนะนำ เพื่อเป็นกติกาด้วยกันดูสิ เพื่อลดการแย้งหรือการเชิญชวนสมุทร า ะลงได้

6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง

ในช่วงวัยเด็ ก เขาชอบลอ กเอาอย่าง พฤติก ร ร มของคนใกล้ชิด

และไม่สามารถแบ่งแยกได้ ว่าอะไรไม่สมควร อะไรควร มันก็เลยทำให้หลายหนลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม

ที่มันไม่ดีของคนแก่ เมื่อถูกต่อว่าและก็ต่อว่าลูกจึงไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรบิดามารดายังทำได้เลยล่ะ

และก็กระบวนการทำให้ลูกเกิดความข้องใจ รวมทั้งพ่อแม่ไม่ชี้แจงนั้น มันก็เป็นสาเหตุ

ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังบิดามารดา และก็สิ่งที่ควรทำนั้นเป็นลูกศึกษาจาก

พฤติกรรมได้ดีกว่าคำบอกเล่า เนื่องจากถ้าอย่างนั้น พ่อกับแม่ควรเป็นตัวอย่ างให้ลูกมองเห็น ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่ควรกระทำ

7. สอนลูก ใช้สมอง แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้

ด้วยเหตุว่าประโยคคำสั่งนั้น มันก็ทำให้ลูกคิดว่า ตนเองไม่ได้เรื่องเอาซะเลยคะ

ทำอะไรก็ไม่ดี ดังนี้มันก็มีผลต่อให้ลูกปราศจากความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น ทั้งอาจกลายเป็นคนยังไม่มั่นใจไปเลย

ไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆสิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็นจะต้องฝึกหัดให้ลูกใช้ความคิดแล้วก็แก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง

ตัวอย่างเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ แล้วก็ยิ่งไปกว่านี้ควรจะหา

กิจก ร ร มสนุกสนานๆทำด้วยกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ มองเห็นลูกทำไม่ถูกต้อง


จะได้สอนลูกให้คิดแก้ปัญหา แทรกเรื่องของความดี จรรยาบรรณไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
สอนลูก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12945/
คำค้นหา : ไม่ต่อต้าน